บริษัท วงศ์สยามเฟอร์นิเจอร์ แอนด์ เซฟ จำกัด

     ตู้เซฟแบบดิจิตอล หรือตู้เซฟแบบอิเล็กทรอนิกส์ ถือว่าเป็นระบบการล็อคที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะกลไกการทำงานของตู้เซฟจะมีความปลอดภัยสูงที่สุด ตู้เซฟแบบดิจิตอลจะต้องมีไฟผ่านอยู่ในตัว โดยส่วนมากจะเป็นการใช้ถ่าน AA จำนวน 4 ก้อน หากแบตเตอรี่อ่อนหรือหมด จะไม่สามารถใช้งานได้ แต่ตู้เซฟดิจิตอลบางรุ่น จะมีกุญแจฉุกเฉินมาให้ ไว้ใช้ในกรณีที่แบตเตอรี่อ่อนไม่สามารถเข้ารหัสผ่านได้ ก็ใช้กุญแจไขเพื่อเปิดตู้เซฟ และบางรุ่นที่หน้าปัดดิจิตอลตรงมุม หรือตรงขอบๆ จะมีช่องให้นำสายเสียบเป็นเหมือนการชาร์จแบตเตอรี่ เพื่อให้สามารถเปิดตู้เซฟได้ หลังจากนั้นคุณก็จะได้เปลี่ยนถ่านให้ตู้เซฟกลับมามีแบตเตอรี่ที่เต็มดังเดิม และใช้งานได้ตามปกติ ถ้าหากใครกังวลว่าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบตเตอรี่หมดตอนที่จะใช้งานตู้เซฟ แนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ทุกๆ 6 เดือน โดยการเข้ารหัสของตู้เซฟดิจิตอลจะแบ่งออกเป็น 3 แบบ ก็คือ

  • แบบปุ่มกด จะมีระบบการรักษาความปลอดภัย โดยกำหนดตัวเลข สามารถตั้งรหัสผ่านได้ 4 ถึง 10 หลัก เหมือนกับ pin ของโทรศัพท์ สะดวกและเหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการความยุ่งยาก สามารถเก็บของได้อย่างรวดเร็วปลอดภัย เป็นระบบที่ได้รับความนิยม และถือว่ามีความปลอดภัยในระดับที่ดีเลยทีเดียว
  • แบบสแกนลายนิ้วมือ จะสามารถจดจำลายนิ้วมือได้ถึง 30 ลายนิ้วมือ เหมาะสำหรับคนที่เปิด – ปิด เพื่อหยิบของบ่อยๆ สะดวกรวดเร็วในการใช้งาน สามารถเก็บของ เช่น เงิน, ทอง, สร้อย และแหวนเพชรได้อย่างปลอดภัย มีความทันสมัย และง่ายต่อการใช้งาน
  • แบบจอสัมผัส เป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่เหมือนกับแบบปุ่มกด โดยที่คุณสามารถตั้งเลขรหัสผ่านได้ 4 ถึง 8 หลัก หรือมากกว่านั้น เวลาที่คุณกดตัวเลขจะเป็นระบบสัมผัส เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วของคุณกดที่หน้าจอ ตามรหัสตัวเลขก็จะเปิดตู้เซฟของคุณได้

     คุณต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ตู้เซฟแบบดิจิตอลไม่ได้มีระบบการเข้ารหัสแบบเดียวต่อหนึ่งตู้เซฟเท่านั้น แต่เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น ตู้เซฟ หรือตู้นิรภัย ยังถูกออกแบบมาให้มีระบบในการล็อคหลายชั้น อย่างเช่น ตู้เซฟแบบปุ่มกด จะมีการกดรหัสเลขกับกุญแจ เผื่อเอาไว้สำหรับกรณีที่ฉุกเฉิน หรือบางตู้จะเป็นการเข้ารหัสแบบกดเลข, สแกนลายนิ้วมือ และมีกุญแจให้ใช้ในตอนที่ฉุกเฉินเช่นกัน

     ในเรื่องของขนาดตู้เซฟดิจิตอล จะกล่าวถึงขนาดที่ใช้กันโดยทั่วไปภายในบ้าน โดยมีให้เลือกกันอย่างหลากหลาย แล้วแต่ละยี่ห้อก็จะผลิตขนาดที่แตกต่างกันออกมา ไม่ได้มีขนาดที่ตายตัวตามมาตรฐาน จะขึ้นอยู่กับผู้ผลิตโดยตรง ทำให้คนส่วนมากเมื่อพูดถึงขนาดของตู้เซฟ ก็จะเรียกเป็น ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ใครที่อยากจะได้ตู้เซฟที่สามารถยก หรือหยิบเคลื่อนที่ได้ง่าย ควรจะใช้ตู้เซฟขนาดเล็ก แถมมีราคาที่ไม่สูงอีกด้วย สำหรับใครที่อยากได้ตู้เซฟที่ใหญ่ขึ้นมาอีกนิด มีล้อสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกก็เลือกตู้เซฟขนาดกลาง แต่ถ้าหากใครที่ไม่ได้ต้องการจะเคลื่อนย้ายตู้เซฟบ่อยๆ และมีพื้นที่มากพอสำหรับการวางตู้เซฟ ก็สามารถใช้ตู้เซฟขนาดใหญ่ได้ ยิ่งขนาดตัวตู้ใหญ่ขึ้น ก็จะมีฟังก์ชันการกันไฟที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอย่างไฟไหม้ขึ้นมา ตู้ขนาดเล็ก หรือขนาดกลางที่มีความสามารถเคลื่อนที่ได้ง่าย ต่อให้ตัวตู้ไม่กันไฟก็ไม่ต้องกังวลว่าของคุณจะเสียหาย แต่ถ้าเกิดเป็นตู้ที่มีขนาดใหญ่ ไม่สามารถยกออกมาได้ง่ายๆ จึงทำให้ต้องมีคุณสมบัติที่กันไฟได้สูง ช่วยให้ของมีค่า และสิ่งของสำคัญของคุณไม่สูญหาย

     ใครที่กำลังสงสัยว่าระบบความปลอดภัยของ ตู้เซฟดิจิตอล มีการทำงานอย่างไร และมีความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ และมีความแตกต่างจากตู้เซฟที่ใช้กุญแจ หรือมือหมุนแบบรุ่นเก่า เพราะเพียงแค่มีกุญแจหรือรู้รหัสเลขแบบมือหมุน ก็สามารถเปิดตู้เซฟของคุณได้อย่างง่ายดาย แต่ตู้เซฟแบบดิจิตอล ถูกออกแบบมาด้วยโครงสร้าง และวัสดุของตู้มีความแข็งแรงทนทาน เพื่อป้องกันการเกิดโจรกรรมสิ่งของมีค่า และมีระบบการเข้ารหัสที่สามารถกดปุ่มใส่รหัสเลข หรือจะเป็นการสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคตู้เซฟ นอกจากนี้ ยังมีระบบการป้องกันอีกชั้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น โดยแต่ละรุ่นจะไม่เหมือนกันดังนี้

  • มีการล็อคหลายชั้น อย่างแน่นหนา เหมาะกับใครที่ต้องการความปลอดภัยสูง เพราะตู้เซฟบางรุ่นจะมีการเข้ารหัสแบบเลข ควบคู่กับสแกนลายนิ้วมือ หากใครที่รู้รหัสตู้เซฟของคุณก็จะไม่สามารถเปิดได้ หากไม่มีลายนิ้วมือของคุณ
  • กดรหัสผิดเกินจำนวนที่กำหน จะเป็นการเข้ารหัสแบบปุ่มกด หรือกดเลขมากกว่า เพราะถ้ามีใครมาลองกดเพื่อปลดล็อคตู้เซฟของคุณ แล้วกดรหัสผิดเกิน 3 ครั้ง ตู้เซฟก็จะทำการล็อคอัตโนมัติ โดยที่ไม่สามารถกดรหัสเลขได้แล้ว นอกจากจะมีกุญแจสำรองฉุกเฉินจึงจะเปิดตู้ได้
  • เสียงสัญญาณเตือนภัย โดยส่วนมากจะมีระบบนี้กับตู้เซฟดิจิตอลที่มีขนาดเล็ก เสียงสัญญาณจะดังก็ต่อเมื่อเกิดการเคลื่อนที่ เพราะด้วยขนาดตู้ที่เล็กและพกพาได้ หากใครจะมายกไปทั้งตู้ ตู้เซฟของคุณก็จะส่งเสียงสัญญาณเตือนภัยที่สูงถึง 120 เดซิเบล (dB)

     ในปัจจุบันตู้เซฟ หรือตู้นิรภัยเอง ไม่ได้มีข้อดีเพียงแค่ขนาดตู้ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย พร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา และยังอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ใช้งานเท่านั้น เพราะเรื่องดีไซน์ของการออกแบบตู้เซฟก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ปัจจุบันมีสีสันให้เลือกมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น สีดำ สีเทา สีทอง สีเบจ หรือโทนสีที่ไม่สะดุดตามากจนเกินไป พร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัย ทำให้คุณสามารถนำไปวางไว้ในมุมใดมุมหนึ่งของบ้านก็ได้ แถมยังเข้ากับดีไซน์ภายในบ้านของคุณอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจในการเลือกซื้อตู้ หรือ เฟอร์นิเจอร์อย่างอื่นเพิ่มเติม ทางเว็บของเราจะมีสินค้าประเภทอื่นๆ นอกเหนือจากตู้เซฟอีกมากมาย เช่น ตู้เก็บของ ตู้ล็อคเกอร์ ตู้เหล็กเอกสาร เก้าอี้พักผ่อน โต๊ะคอม โต๊ะทำงาน เป็นต้น พร้อมบริการจัดส่งถึงบ้านของคุณรวดเร็วทันใจแน่นอน

สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่่
☎️ 02-225-5190
📱 088-693-5491
💚 ID Line : https://lin.ee/UoGxKpn