บริษัท วงศ์สยามเฟอร์นิเจอร์ แอนด์ เซฟ จำกัด

     ตู้เซฟแบบดิจิตอล หรือตู้เซฟแบบอิเล็กทรอนิกส์ ถือว่าเป็นระบบการล็อคที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะกลไกการทำงานของตู้เซฟจะมีความปลอดภัยสูงที่สุด ตู้เซฟแบบดิจิตอลจะต้องมีไฟผ่านอยู่ในตัว โดยส่วนมากจะเป็นการใช้ถ่าน AA จำนวน 4 ก้อน หากแบตเตอรี่อ่อนหรือหมด จะไม่สามารถใช้งานได้ แต่ตู้เซฟดิจิตอลบางรุ่น จะมีกุญแจฉุกเฉินมาให้ ไว้ใช้ในกรณีที่แบตเตอรี่อ่อนไม่สามารถเข้ารหัสผ่านได้ ก็ใช้กุญแจไขเพื่อเปิดตู้เซฟ และบางรุ่นที่หน้าปัดดิจิตอลตรงมุม หรือตรงขอบๆ จะมีช่องให้นำสายเสียบเป็นเหมือนการชาร์จแบตเตอรี่ เพื่อให้สามารถเปิดตู้เซฟได้ หลังจากนั้นคุณก็จะได้เปลี่ยนถ่านให้ตู้เซฟกลับมามีแบตเตอรี่ที่เต็มดังเดิม และใช้งานได้ตามปกติ ถ้าหากใครกังวลว่าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบตเตอรี่หมดตอนที่จะใช้งานตู้เซฟ แนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ทุกๆ 6 เดือน โดยการเข้ารหัสของตู้เซฟดิจิตอลจะแบ่งออกเป็น 3 แบบ ก็คือ

  • แบบปุ่มกด จะมีระบบการรักษาความปลอดภัย โดยกำหนดตัวเลข สามารถตั้งรหัสผ่านได้ 4 ถึง 10 หลัก เหมือนกับ pin ของโทรศัพท์ สะดวกและเหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการความยุ่งยาก สามารถเก็บของได้อย่างรวดเร็วปลอดภัย เป็นระบบที่ได้รับความนิยม และถือว่ามีความปลอดภัยในระดับที่ดีเลยทีเดียว
  • แบบสแกนลายนิ้วมือ จะสามารถจดจำลายนิ้วมือได้ถึง 30 ลายนิ้วมือ เหมาะสำหรับคนที่เปิด – ปิด เพื่อหยิบของบ่อยๆ สะดวกรวดเร็วในการใช้งาน สามารถเก็บของ เช่น เงิน, ทอง, สร้อย และแหวนเพชรได้อย่างปลอดภัย มีความทันสมัย และง่ายต่อการใช้งาน
  • แบบจอสัมผัส เป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่เหมือนกับแบบปุ่มกด โดยที่คุณสามารถตั้งเลขรหัสผ่านได้ 4 ถึง 8 หลัก หรือมากกว่านั้น เวลาที่คุณกดตัวเลขจะเป็นระบบสัมผัส เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วของคุณกดที่หน้าจอ ตามรหัสตัวเลขก็จะเปิดตู้เซฟของคุณได้

     คุณต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ตู้เซฟแบบดิจิตอลไม่ได้มีระบบการเข้ารหัสแบบเดียวต่อหนึ่งตู้เซฟเท่านั้น แต่เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น ตู้เซฟ หรือตู้นิรภัย ยังถูกออกแบบมาให้มีระบบในการล็อคหลายชั้น อย่างเช่น ตู้เซฟแบบปุ่มกด จะมีการกดรหัสเลขกับกุญแจ เผื่อเอาไว้สำหรับกรณีที่ฉุกเฉิน หรือบางตู้จะเป็นการเข้ารหัสแบบกดเลข, สแกนลายนิ้วมือ และมีกุญแจให้ใช้ในตอนที่ฉุกเฉินเช่นกัน

     ในเรื่องของขนาดตู้เซฟดิจิตอล จะกล่าวถึงขนาดที่ใช้กันโดยทั่วไปภายในบ้าน โดยมีให้เลือกกันอย่างหลากหลาย แล้วแต่ละยี่ห้อก็จะผลิตขนาดที่แตกต่างกันออกมา ไม่ได้มีขนาดที่ตายตัวตามมาตรฐาน จะขึ้นอยู่กับผู้ผลิตโดยตรง ทำให้คนส่วนมากเมื่อพูดถึงขนาดของตู้เซฟ ก็จะเรียกเป็น ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ใครที่อยากจะได้ตู้เซฟที่สามารถยก หรือหยิบเคลื่อนที่ได้ง่าย ควรจะใช้ตู้เซฟขนาดเล็ก แถมมีราคาที่ไม่สูงอีกด้วย สำหรับใครที่อยากได้ตู้เซฟที่ใหญ่ขึ้นมาอีกนิด มีล้อสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกก็เลือกตู้เซฟขนาดกลาง แต่ถ้าหากใครที่ไม่ได้ต้องการจะเคลื่อนย้ายตู้เซฟบ่อยๆ และมีพื้นที่มากพอสำหรับการวางตู้เซฟ ก็สามารถใช้ตู้เซฟขนาดใหญ่ได้ ยิ่งขนาดตัวตู้ใหญ่ขึ้น ก็จะมีฟังก์ชันการกันไฟที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอย่างไฟไหม้ขึ้นมา ตู้ขนาดเล็ก หรือขนาดกลางที่มีความสามารถเคลื่อนที่ได้ง่าย ต่อให้ตัวตู้ไม่กันไฟก็ไม่ต้องกังวลว่าของคุณจะเสียหาย แต่ถ้าเกิดเป็นตู้ที่มีขนาดใหญ่ ไม่สามารถยกออกมาได้ง่ายๆ จึงทำให้ต้องมีคุณสมบัติที่กันไฟได้สูง ช่วยให้ของมีค่า และสิ่งของสำคัญของคุณไม่สูญหาย

     ใครที่กำลังสงสัยว่าระบบความปลอดภัยของ ตู้เซฟดิจิตอล มีการทำงานอย่างไร และมีความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ และมีความแตกต่างจากตู้เซฟที่ใช้กุญแจ หรือมือหมุนแบบรุ่นเก่า เพราะเพียงแค่มีกุญแจหรือรู้รหัสเลขแบบมือหมุน ก็สามารถเปิดตู้เซฟของคุณได้อย่างง่ายดาย แต่ตู้เซฟแบบดิจิตอล ถูกออกแบบมาด้วยโครงสร้าง และวัสดุของตู้มีความแข็งแรงทนทาน เพื่อป้องกันการเกิดโจรกรรมสิ่งของมีค่า และมีระบบการเข้ารหัสที่สามารถกดปุ่มใส่รหัสเลข หรือจะเป็นการสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคตู้เซฟ นอกจากนี้ ยังมีระบบการป้องกันอีกชั้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น โดยแต่ละรุ่นจะไม่เหมือนกันดังนี้

  • มีการล็อคหลายชั้น อย่างแน่นหนา เหมาะกับใครที่ต้องการความปลอดภัยสูง เพราะตู้เซฟบางรุ่นจะมีการเข้ารหัสแบบเลข ควบคู่กับสแกนลายนิ้วมือ หากใครที่รู้รหัสตู้เซฟของคุณก็จะไม่สามารถเปิดได้ หากไม่มีลายนิ้วมือของคุณ
  • กดรหัสผิดเกินจำนวนที่กำหน จะเป็นการเข้ารหัสแบบปุ่มกด หรือกดเลขมากกว่า เพราะถ้ามีใครมาลองกดเพื่อปลดล็อคตู้เซฟของคุณ แล้วกดรหัสผิดเกิน 3 ครั้ง ตู้เซฟก็จะทำการล็อคอัตโนมัติ โดยที่ไม่สามารถกดรหัสเลขได้แล้ว นอกจากจะมีกุญแจสำรองฉุกเฉินจึงจะเปิดตู้ได้
  • เสียงสัญญาณเตือนภัย โดยส่วนมากจะมีระบบนี้กับตู้เซฟดิจิตอลที่มีขนาดเล็ก เสียงสัญญาณจะดังก็ต่อเมื่อเกิดการเคลื่อนที่ เพราะด้วยขนาดตู้ที่เล็กและพกพาได้ หากใครจะมายกไปทั้งตู้ ตู้เซฟของคุณก็จะส่งเสียงสัญญาณเตือนภัยที่สูงถึง 120 เดซิเบล (dB)

     ในปัจจุบันตู้เซฟ หรือตู้นิรภัยเอง ไม่ได้มีข้อดีเพียงแค่ขนาดตู้ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย พร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา และยังอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ใช้งานเท่านั้น เพราะเรื่องดีไซน์ของการออกแบบตู้เซฟก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ปัจจุบันมีสีสันให้เลือกมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น สีดำ สีเทา สีทอง สีเบจ หรือโทนสีที่ไม่สะดุดตามากจนเกินไป พร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัย ทำให้คุณสามารถนำไปวางไว้ในมุมใดมุมหนึ่งของบ้านก็ได้ แถมยังเข้ากับดีไซน์ภายในบ้านของคุณอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจในการเลือกซื้อตู้ หรือ เฟอร์นิเจอร์อย่างอื่นเพิ่มเติม ทางเว็บของเราจะมีสินค้าประเภทอื่นๆ นอกเหนือจากตู้เซฟอีกมากมาย เช่น ตู้เก็บของ ตู้ล็อคเกอร์ ตู้เหล็กเอกสาร เก้าอี้พักผ่อน โต๊ะคอม โต๊ะทำงาน เป็นต้น พร้อมบริการจัดส่งถึงบ้านของคุณรวดเร็วทันใจแน่นอน

สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่่
☎️ 02-225-5190
📱 088-693-5491
💚 ID Line : https://lin.ee/UoGxKpn

 

ตู้เซฟเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ช่วยให้ทรัพย์สินชิ้นเล็กๆ หรือเอกสารสำคัญของเราอยู่ในที่ปลอดภัยมากขึ้น เช่น เพชร ทองคำ นาฬิกา โฉนดที่ดิน ฯลฯ แม้ว่าหลายครอบครัวจะตัดสินใจซื้อตู้เซฟเพื่อมาเก็บทรัพย์สินมีค่าก็ไม่พ้นที่จะถูกโจรกรรมเพื่อเอาทรัพย์สินภายในไปได้อย่างที่เราได้ยินข่าวกันอยู่เนืองๆ แต่อย่างไรก็ตามการโจรกรรมนั้นจะต้องมีการวางแผนและรู้ล่วงหน้าว่าจะต้องเจอกับอะไร จึงต้องเป็นโจรที่มีฝีมือและมีอุปกรณ์ในการเจาะเซฟจึงเอาทรัพย์สินไปได้

นอกจากการมีตู้เซฟแล้ว การเลือกวางตู้เซฟไว้ในที่ลับตาและปลอดภัย จึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ทั้งตู้เซฟและทรัพย์สินที่อยู่ข้างในนั้นปลอดภัยจากโจรผู้ร้ายได้ แล้วเราควรวางตู้เซฟไว้ตรงไหนดีล่ะ ถึงเรียกว่าปลอดภัย

  • ที่ ๆ โจรนึกไม่ถึง

    คนส่วนใหญ่จะเก็บตู้เซฟไว้ใกล้กับตัวเอง ซึ่งก็คือห้องนอนหรือห้องเก็บเสื้อผ้า ซึ่งแน่นอนว่าโจรเมื่อเข้ามารื้อค้นของมีค่าก็มาที่สองห้องนี้ก่อนอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าต้องการให้ปลอดภัยควรเลือกวางตู้เซฟไว้ในจุดอื่น ๆ ของบ้านที่คิดว่าโจรไม่น่าจะคิดว่ามีของมีค่า เช่น ห้องเก็บของ ห้องครัว ห้องเก็บเครื่องมือ หรือจุดอื่น ๆ ที่แต่ละบ้านเห็นว่าสมควร แค่ยึดหลักว่าเป็นที่ ๆ จะไม่มีใครคาดถึงว่ามีของมีค่าอยู่นั่นแหละค่ะ

  • ไม่วางให้เด่น

    ถึงแม้ว่าจะเลือกสถานที่ที่คิดว่าลับตาและไม่น่ามีใครเห็นแล้วก็ตาม แต่การตั้งวางตู้เซฟก็ไม่ควรที่จะวางเปลือย ๆ ไว้ให้เห็นได้ง่าย ควรหาผ้ามาคลุมเอาไว้หรือหาสิ่งของมาวางเพื่อบังตู้เซฟไว้ด้วย แน่นอนว่าเราเจ้าของบ้านหรือสมาชิกในครอบครัวก็คงไม่มีความจำเป็นต้องเปิดตู้เซฟบ่อย ๆ อยู่แล้ว เก็บให้ลับตาและมิดชิดมากที่สุดก็จะปลอดภัยมากที่สุดค่ะ

  • ยึดตู้เซฟติดถาวรกับผนัง

    ตู้เซฟที่มีรูสำหรับให้ยึดติดผนังได้อย่างถาวร ไม่สามารถเอียงให้ล้มหรือคว่ำลงได้นั้น จะมีความปลอดภัยมากกว่า สำหรับโจรผู้ร้ายที่ต้องการยกทั้งตู้เซฟไปหรือจะงัดแงะเจาะเซฟก็จะทำไม่ได้หรือทำได้ยากกว่า ดังนั้นนอกจากจะวางตู้เซฟไว้ในที่ลับตาและมิดชิดแล้ว ก็ควรจะยึดตู้เซฟให้ติดผนังแบบถาวรเพื่อความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้นด้วย

  • เลือกวางไว้ชั้นบนของบ้าน

    ถ้าบ้านมีหลายชั้นก็ให้เลือกวางตู้เซฟไว้ที่ชั้นบนของบ้าน ยิ่งสูงก็ยิ่งดีค่ะ เพราะถ้าโจรคิดจะขนตู้เซฟไปก็คงทำได้ยากขึ้น หรืออย่างน้อยก็ใช้เวลานานขึ้น ย่อมดีกว่าตั้งไว้ที่ชั้นล่างสุด ถ้าโจรหาตำแหน่งเจอก็ขนตู้เซฟไปได้สบายๆ

ไหน ๆ ก็ซื้อตู้เซฟมาใช้งานแล้ว ก็อย่าให้โจรผู้ร้ายเห็นง่าย ขนสบาย ต้องเลือกวางในจุดที่คิดว่าปลอดภัย มิดชิดและลับตาให้มากย่อมดีที่สุด สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจในการเลือกซื้อตู้ หรือ เฟอร์นิเจอร์อย่างอื่นเพิ่มเติม ทางเว็บของเราจะมีสินค้าประเภทอื่นๆ นอกเหนือจากตู้เซฟอีกมากมาย เช่น ตู้เก็บของ ตู้ล็อคเกอร์ ตู้เหล็กเอกสาร เก้าอี้พักผ่อน โต๊ะคอม โต๊ะทำงาน เป็นต้น พร้อมบริการจัดส่งถึงบ้านของคุณรวดเร็วทันใจแน่นอน

สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่่
☎️ 02-225-5190
📱 088-693-5491
💚 ID Line : https://lin.ee/UoGxKpn

 

ถ้าให้พูดถึงตู้ที่มีความปลอดภัยมากที่สุดในยุคสมัยปัจจุบัน ตู้เซฟถือว่าเป็นตู้อันดับ 1 ในด้านความปลอดภัย ที่ได้รับการยอมรับกันอย่างแพร่หลายในด้านของปลอดภัย ที่ออกแบบมาเพื่อให้จัดเก็บสิ่งของมีค่าต่าง ๆ เช่น เงิน ทอง สร้อย เพชร ได้อย่างมีคุณภาพด้วยการที่ตู้เซฟนั้นมีระบบในด้านความปลอดภัยสูง จึงเป็นที่นิยมมากสาหรับใครที่ต้องการเก็บของมีค่าให้มีความปลอดภัยมากที่สุด

เลิกวกไปวนมาสักที เรามาเข้าเรื่องของเราเลยดีกว่า วันนี้สำหรับท่านใดที่กำลังตัดสินใจในการเลือกซื้อ ตู้เซฟ มาใช้งานภายในบ้านหรือสถานที่อื่น ๆ บทความที่จะบอกถึงวิธีการเลือกซื้อตู้เซฟที่มีคุณภาพมากที่สุด เพื่อช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจในการเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น เรามาเริ่มกันที่อันดับแรก

1. ขนาด ตู้เซฟนั้นมีขนาดที่เล็กและใหญ่แตกต่างกันไป ในการเลือกซื้อสิ่งที่คุณควรคำนึงถึงมากที่สุด ก็คือพื้นที่ในการจัดเก็บทรัพย์สินของคุณ โดยดูจากขนาดภายนอกของตู้ ถ้าทรัพย์สินของคุณมีขนาดใหญ่ ควรเลือกตู้ที่มีขนาดใหญ่ตามไปด้วย หรือทางที่ดีคุณควรซื้อขนาดใหญ่ไปเลย เพราะจะช่วยให้ในอนาคตทรัพย์สินของคุณมากขึ้น คุณก็ยังคงมีพื้นในการเก็บทรัพย์สินเพียงพอต่อการใช้งาน

2. ประเภท ทรัพย์สินของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน เช่น เงิน ปืน แหวน หรือทอง เป็นต้น ดังนั้นการเลือกซื้อตู้เซฟก็ควรเลือกที่ออกแบบให้เหมาะสมกับประเภทของทรัพย์สินนั้นด้วย เพราะว่าทรัพย์สินประเภทที่แตกต่างกัน ไม่สมควรนำมาเก็บไว้ในตู้เดียวกัน

3. พื้นที่ในการจัดเก็บ ตู้เซฟบางตู้ที่มีขนาดใหญ่อาจจะมีพื้นที่ในการจัดเก็บน้อยได้ ดังนั้นต้องเลือกตู้เซฟที่มีความเหมาะสม ใช้งานได้สะดวก เราสามารถแบ่งสัดส่วนพื้นที่ในการจัดเก็บทรัพย์สินได้อย่างเป็นระเบียบ จะช่วยให้คุณไม่ต้องวุ่นวายเวลาหยิบหรือนำสิ่งของออกมาใช้

4. ความแข็งแกว่งทนทาน แน่นอนว่าตู้เซฟขึ้นชื่อในด้านของความแข็งแรงทนทานมากที่สุด แต่ด้วยว่าตู้เซฟที่ผลิตออกมาจำนวนมาก ก็มีสินค้าที่ไม่มีคุณภาพเหมือนกัน ดังนั้นการเลือกซื้อควรมองด้านความน่าเชื่อถือของโรงงานด้วย ถ้าโรงงานที่ไม่มีการรับประกัน เราไม่แนะนำให้ซื้อ เพราะอาจเกิดการเสียหายและเสียตังฟรีได้

5. ระบบล็อก ตู้เซฟแต่ละชนิดมีระบบการล็อคไม่เหมือนกัน เช่น ล็อกกุญแจ ล็อกสแกนนิ้ว ล็อกสแกนใบหน้า ล็อคการเข้ารหัส การล็อคเหล่านี้เป็นวิธีที่ดีทั้งหมด แต่บางทีอาจจะไม่เหมาะสมกับสถานที่และตัวบุคคล ทางที่ดีเราควรเลือกระบบการล็อคที่เหมาะสมกับเรา เพื่อที่จะเข้าใจได้ และปรับตัวต่อให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม

6. วัสดุ คุณควรเลือกตู้เซฟที่ทำมาจากเหล็กอลูมิเนียม เพราะว่าตู้เซฟที่ทาจากเหล็กมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง สามารถป้องกันภัยต่าง ๆ ได้อย่างดีไม่ว่าจะเกิด ไฟไหม้ งัด ทุบ ตู้เซฟก็ยังคงสภาพได้อย่างสมบูรณ์ ไม่มีเสียหายแน่นอน

7. เคลื่อนย้ายได้ ตู้เซฟบางตู้นั้นสามารถเคลื่อนย้ายได้ถ้ามีน้ำหนักเบา แต่ความจริงแล้วไม่เหมาะสมซักเท่าไร เพราะตู้เซฟที่ดีเราไม่ควรเคลื่อนย้ายบ่อย ๆ เพราะว่าตู้เซฟที่สามารถน้ำหนักเบามีโอกาสเสี่ยงที่โจรจะบุกเข้ามาแล้วขโมยตู้เซฟไปได้ ทางที่ดีควรเก็บตู้เซฟไว้ในสถานที่ที่ปลอดภัย และไม่ควรเคลื่อนย้ายบ่อยๆ

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจในการเลือกซื้อตู้ หรือ เฟอร์นิเจอร์อย่างอื่นเพิ่มเติม ทางเว็บของเราจะมีสินค้าประเภทอื่นๆ นอกเหนือจากตู้เซฟอีกมากมาย เช่น ตู้เก็บของ ตู้ล็อคเกอร์ ตู้เหล็กเอกสาร เก้าอี้พักผ่อน โต๊ะคอม โต๊ะทำงาน เป็นต้น พร้อมบริการจัดส่งถึงบ้านของคุณรวดเร็วทันใจแน่นอน

สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่่
☎️ 02-225-5190
📱 088-693-5491
💚 ID Line : https://lin.ee/UoGxKpn

   ถ้าพูดถึงตู้เซฟแล้วนั้น ส่วนมากตู้เซฟถูกนำไปใช้ในสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความสำคัญ เช่น ธนาคาร ร้านทอง และพิพิธภัณฑ์ เป็นต้น เพราะสถานที่เหล่านี้เป็นสถานที่มีโอกาศเสี่ยงต่อการก่อการร้ายจากผู้ไม่หวังดีและทำให้เกิดการสูญเสียทรัพย์สินที่มีค่าได้ ดังนั้นตู้เซฟจึงเป็นส่วนสำคัญขาดไม่ได้ในการเข้ามาช่วยรักษาความปลอดภัยทรัพย์สินของคุณให้มีความปลอดภัย ช่วยให้ระบบป้องกันความปลอดภัยมีความหนาแน่น มั่นใจได้ว่าสิ่งของมีค่าของคุณปลอดภัยหายห่วงแน่นอน

ตู้เซฟ ควรมีไว้ในบ้านไหม ?

   สำหรับหลายคนคงคิดว่าตู้เซฟนั้นไม่มีความจำเป็นสำหรับนำมาใช้ในบ้าน เพราะว่าตู้เซฟนั้นมีราคาที่ค่อนข้างสูงจนเกินไป แต่ความเป็นจริงแล้วตู้เซฟนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรที่จะมองข้าม หากว่าคุณเห็นคุณค่าของทรัพย์สินด้านความปลอดภัยแล้ว เชื่อว่าคุณควรที่จะเลือกซื้อ ตู้เซฟ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นและควรซื้อไว้ติดบ้าน รับประกันว่ามีประโยชน์ต่อการใช้งานแน่นอน เราลองมาดูประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ของตู้เซฟกันว่ามีอะไรบ้าง

1. ช่วยรักษาความปลอดภัยและป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดกับทรัพย์สินของคุณ ตู้เซฟนั้นที่ออกแบบเพื่อรองรับภัยสถานการณ์อันตรายในด้านต่าง ๆ เช่น อัคคีภัย โจรกรรม เป็นต้น ซึ่งหากคุณมีตู้เซฟก็สามารถป้องกันภัยอันตรายที่อาจเกิดจากเหล่านี้ได้

2. น้ำหนักที่ค่อนข้างมาก สำหรับตู้เซฟเราควรติตตั้งในพื้นที่มีความปลอดภัยและเป็นที่เราสามารถดูแลรักษาได้ง่ายจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเคลื่อนย้ายตู้เซฟบ่อย ๆ ดังนั้นการที่มีตู้เซฟที่มีน้ำหนักมากจะช่วยให้ป้องกันโจรจากการลักลอบขนย้ายตู้เซฟได้ยาก การมีน้ำหนักมากถือว่าเป็นข้อดีอย่างหนึ่งที่เหมาะสมกับตู้เซฟ

3. เก็บเอกสารที่สำคัญ ถ้าหากคุณมีเอกสารที่สำคัญ เช่น โฉนดที่ดิน เอกสารการเงิน หากว่าคุณมีตู้เซฟเป็นทางเลือกในการเก็บเอกสาร ของคุณซึ่งแน่นอนว่าจะไม่มีใครสามารถแอบดูหรือขโมยได้อย่างแน่นอน ดังนั้นการเก็บเอกสารไว้ในตู้ที่มีระบบการป้องกันสูงจะช่วยให้คุณลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากจริง ๆ

4. ระบบป้องกันที่แน่นหนา เอกลักษณ์ของตู้เซฟที่เราคงเคยเห็นกันนั้นก็คือระบบการป้องกัน ตู้เซฟส่วนมากจะมีการล็อคและการเปิดโดยการใช้การล็อครหัส เช่น ระบบการล็อคแบบหมุน ระบบการหมุนเข้ารหัสถือว่าเป็นที่นิยมในสากลเพราะมีความปลอดภัยสูง และป้องกันทรัพย์สินได้ดีที่สุด

5. เก็บสิ่งของที่เป็นอันตรายได้ หากคุณมีสิ่งของที่เป็นอันตราย เช่น ปืน คุณควรให้ความสำคัญในการเก็บให้มีความปลอดภัยมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าบ้านคุณมีเด็กหรือลูก คุณควรให้ความสำคัญในการเก็บเพื่อให้ปลอดภัยและห่างไกลจากมือเด็ก ซึ่งตู้เซฟเป็นสิ่งสามารถเก็บรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตู้เซฟนอกจากนำไปใช้ในสถานที่ที่มีความสำคัญแล้ว คุณสามารถนำไปใช้ในบ้านได้ ถึงแม้ว่าการเลือกซื้อตู้เซฟจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงแต่ตู้เซฟถือว่าเป็นสิ่งที่คุณควรเห็นคุณค่าและไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด การที่มีตู้เซฟมาใช้ในบ้านจะมีประโยชน์ในด้านต่าง ๆ อย่างมากมาย และตู้เซฟจะช่วยอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิเช่น การเก็บเงิน การเก็บสิ่ง การเก็บของอันตราย ได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดภัยอันตรายต่างไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้หรือโจรของที่มีค่าของคุณก็จะไม่สูญหายและเสียหายอย่างแน่นอน

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจในการเลือกซื้อตู้ หรือ เฟอร์นิเจอร์อย่างอื่นเพิ่มเติม ทางเว็บของเราจะมีสินค้าประเภทอื่นๆ นอกเหนือจากตู้เซฟอีกมากมาย เช่น ตู้เก็บของ ตู้ล็อคเกอร์ ตู้เหล็กเอกสาร เก้าอี้พักผ่อน โต๊ะคอม โต๊ะทำงาน เป็นต้น พร้อมบริการจัดส่งถึงบ้านของคุณรวดเร็วทันใจแน่นอน

สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่่
☎️ 02-225-5190
📱 088-693-5491
💚 ID Line : https://lin.ee/UoGxKpn

 

รับขนย้ายตู้เซฟชับบ์ (chubb) ,รับขนย้ายตู้เซฟลีโก้ (Leeco) ,รับขนย้ายตู้เซฟคิงดอม (Kingdom) ,รับขนย้ายตู้เซฟไทโย (Taiyo) บริการขนย้ายตู้เซฟทุกยี่ห้อ ตู้เซฟกันไฟ ตู้เซฟบ้าน ตู้เซฟสำนักงาน ตู้เซฟรหัสหมุน ตู้เซฟดิจิตอล ตู้เซฟเอกสาร ตู้เซฟมีลิ้นชัก รับขนย้ายตู้เซฟโดยทีมงานช่างผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในการขนย้ายตู้เซฟมากกว่า 10 ปี 

Wongsiam Furniture & Safe บริการขนย้ายเซฟครบวงจร ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์,ขนย้ายสำนักงาน,ขนย้ายตู้เซฟ, ฯลฯ เพียงคุณติดต่อเราแล้วแจ้งรายละเอียดว่า คุณต้องการย้ายสิ่งของอะไร จากต้นทางไปยังปลายทางที่ไหน อยู่ชั้นอะไร ที่จอดรถสะดวกไหม เพียงแค่นี้ทางเราก็จะประเมินรถและราคาให้คุณทันที ทางเราประเมินรถและราคาให้ฟรี และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการขนย้ายครับ #ขนย้ายสำนักงาน #ขนย้ายบ้าน #ขนย้ายของ #ขนย้ายตู้เซฟ #ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ 

ขั้นตอนการให้บริการ ขนย้าย

➡️ @Line ID : @wongsiam

➡️ ถ่ายรูปตู้เซฟที่จะขนย้าย

➡️ บอกสถานที่ ต้นทาง และปลายทาง

➡️ การประเมินราคาการขนย้าย 

📍 ทำตามขั้นตอนตามนี้ แอดมินก็สามารถประเมินราคา บอกราคาให้กับท่านได้ทันที ย้ายตู้เซฟ CHUBB ,ย้ายตู้เซฟ LEECO ,ย้ายตู้เซฟ KINGDOM ,ย้ายตู้เซฟ TAIYO ,ฯลฯ การขนย้ายขึ้นชั้น ลงชั้น ขนย้ายในอาคาร ขนย้ายระหว่างตึก เรามีพนักงานมืออาชีพ วิธีย้ายตู้เซฟและอุปกรณ์ขนย้ายเฉพาะทาง ไว้คอยบริการสำหรับขนย้ายโดยเฉพาะ

ติดต่อสอบถามข้อมูล
☎️ 02-225-5190
📱 088-693-5491
💚 ID Line : @Wongsiam

ลืมรหัสตู้นิรภัย Kingdom ต้องทำอย่างไรดี ?

ลืมรหัสตู้เซฟนิรภัยKingdom

ในกรณีตู้เซฟที่ใช้งาน จำรหัสไม่ได้ หรือ ลืมรหัสตู้เซฟ เราควรต้องทำอย่างไร ในการจะเปิดตู้เซฟนิรภัยนั้น ตู้เซฟในปัจจุบันจะมีทั้งระบบหมุน และระบบกดปุ่ม ถ้าเป็นรุ่นใหม่ ๆจะมีระบบสแกนนิ้วมืออีก การที่เราจะสามารถเปิดตู้เซฟได้นั้น เราต้อง มีรหัสปลดล็อค และยังต้องมีกุญแจอีก ดั้งนั้นการเปิดตู้เซฟในแต่ละครั้ง ต้องมีรหัสปลดล็อคและกุญแจ แต่ถ้าเรามีแค่ รหัสอย่างเดียว หรือ กุญแจอย่างเดียว ก็ไม่สามารถที่จะเปิดตู้เซฟได้ เราควรตั้งมีทั้งสองอย่างในการจะเปิดตู้เซฟ

ถ้าหากเราจำรหัสตู้เซฟไม่ได้ ก็ไม่มีทางที่เราจะสามารถเปิดเซฟได้เลย การเข้ารหัสตู้เซฟของแต่ละยี่ห้อก็มีการเข้ารหัสที่แตกต่างกัน

  • ะบบหมุมรหัสไปทางขวาก่อน (ก็มีการเข้ารหัสที่ต้องให้รหัส 4 รหัส ในการหมุน) เริ่มต้น รหัสแรกหมุนไปทางขวาก่อน 4รอบ จากนั้นรหัสที่สอง ก็หมุนไปทางซ้าย3รอบ รหัสที่สาม ก็หมุนไปทางขวา2รอบ รหัสที่4 หมุนไปทางซ้าย1 รอบ
  • ะบบหมุมรหัสไปทางซ้ายก่อน (ก็มีการเข้ารหัสที่ต้องให้รหัส 4 รหัส ในการหมุน) เริ่มต้น รหัสแรกหมุนไปทางซ้ายก่อน 4รอบ จากนั้นรหัสที่สอง ก็หมุนไปทางขวา3รอบ รหัสที่สาม ก็หมุนไปทางซ้าย2รอบ รหัสที่4 หมุนไปทางขวา1 รอบ
  • ระบบกดปุ่ม จะมีการตั้งรหัสตั้งแต่ 4-8 หลัก ในการตั้งรหัส ขึ้นอยู่กับตู้เซฟแต่ละยี่ห้อ สามารถตั้งรหัสได้จำนวนกี่เลข ละส่วนฬหญ่จะมีระบบกุญแจฉุกเฉินให้ในกรณีที่เราลืมรหัส หรือระบบแผงวงจรมีปัญหา หรือแบตเตอรีหมด ดังนั้นในการจะใช้ตู้เซฟที่เป็นระบบกด ควรศึกษาระบบการล็อคของตู้เซฟว่ารุ่นที่เราจะซื้อ มีระบบกุญแจฉุกเฉินให้มาไหม ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อ
  • ระบบสแกนนิ้วมือ จะมีการตั้งรหัสโดยการใช้นิ้วสแกนลายนิ้วมือในการปลดล็อคตู้เซฟ และสามารถสแกนได้มากกว่า 100 นิ้วมือ และยังสามารถให้รหัสตัวเลขล็อคเพิ่มได้อีก ง่ายแก่การเปิดมาก แต่ต้องใช้แบตเตอรี่ในการเปิดและปิดระบบล็อค ดังนั้นแบตเตอรี่ก็เป็นสิ่งสำคัญในการเปิดตู้เซฟ จึงต้องค่อยเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยๆ ห้ามปล่อยให้แบตเตอรีหมด การทำงานก็ไม่สามารถเปิดตู้เซฟได้เลย ควรศึกษาระบบการล็อคของตู้เซฟว่ารุ่นที่เราจะซื้อ มีระบบกุญแจฉุกเฉินให้มาไหม ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อ

*** ขั้นตอนในการเปิดตู้เซฟ กรณี ลืมรหัสตู้เซฟ ***

 

  • ดูว่าตู้เซฟนิรภัยยี่ห้อ รุ่นอะไร
  • กุญแจตู้เซฟมีไหม
  • ตู้เซฟระบุ serail number ของตู้มีไหม
  • ตู้เซฟของเราเคยเปลี่ยนรหัสหรือเปล่า
  • ติดต่อบริษัทที่เราซื้อมา
  • ข้อสำคัญต้องเป็นเจ้าของตู้เท่านั้น หรือได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของตู้เซฟ ในการทำเรื่องของเปิดตู้เซฟ

ดูว่าตู้เซฟนิรภัยยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร

ตู้เซฟในปัจจุบันมีหลายยี่ห้อมากหาย แต่ส่วนใหญ่ ที่นิยมกันแพร่หลาย ได้แก่ ตู้เซฟนิรภัย leeco kingdom taiyo president wingsun chubb pilot wordsafe แต่ละยี่ห้อก็จะมีรุ่นบอกชัดเจน อยู่ที่ตำแหน่ง ด้านหน้าของตู้เซฟ

กุญแจตู้เซฟมีไหม ?

ตู้เซฟของเราล็อคด้วยกุญแจหรือเปล่า ถ้ามีกราล็อคกุญแจ เราไม่สามารถที่จะทำการเปิดตู้เซฟได้แน่นอน คงต้องหาช่างเข้าไปปลดล็อคกุญแจก่อน

ตู้เซฟระบุ serial number ของตู้มีไหม ?

ตู้เซฟนิรภัยทุกยี่ห้อ ส่วนใหญ่จะมีserial number ติดอยู่ทุกตู้ ลักษณะจะเป็นสติกเกอร์ หรือ แผ่นเหล็กที่มีการตอกcodeระบุ ปีผลิต รุ่น นำ้หนัก ของตู้เซฟ เพื่อใช้ในการเช็คคุณลักษณะของตู้เซฟ และยังสามารถเช็คค่ารหัสเริ่มต้นจากโรงงานได้ด้วย

ตู้เซฟของเราเคยเปลี่ยนรหัสไหม ?

ตู้เซฟทุกยี่ห้อเมื่อผลิตออกจากโรงงานแล้วจะมีค่า เริ่มต้นที่ถูกกำหนดจากโรงงาน ดั้งนั้น ถ้าเราไม่เคยเปลี่ยนรหัส จะต้องเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงานแน่นอน แต่ถ้าเรามีการเปลี่ยนรหัสไปแล้ว ก็ต้องจำเอง ห้านลืมเด็ดขาด แต่ถ้าลืม คงต้องใช้บริการช่างเปิดตู้เซฟ เท่านั้นในการเปิดตู้เซฟนิรภัย

ติดต่อบริษัทที่เราซื้อมา

ในการซื้อตู้เซฟนิรภัยจากตัวแทนจำหน่าย ส่วนใหญ่ร้านค้าจะเก็บหลักฐานการซื้อตู้เซฟของลูกค้า ดั้งนั้นถ้าเรามีปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานตู้เซฟ หรือลืมรหัส ควรติดต่อบริษัทร้านค้าที่เราซื้อก่อน ถ้ายังอยู่ในประกัน ลูกค้าจะได้รับบริการหลังการขาย จากร้านที่ซื้อตู้เซฟนิรภัย

เจ้าของตู้เซฟเท่านั้น หรือได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของตู้เซฟ ในการทำเรื่องขอเปิดตู้เซฟ

ในการจะขอทำเรื่องเปิดตู้เซฟในกรณีลืมรหัส ต้องมีเอกสารการซื้อขายตู้เซฟ จากทางบริษัท หรือบิลใบเสร็จ ซื้อขายตู้เซฟ แต่ถ้าเราไม่มีเอกสารหรือบิล ก็ต้องทำการแจ้งความ กับสถานีตำรวจ ยืนยันความเป็นเจ้าของตู้เซฟ หรือในกรณีที่เจ้าของเสียชีวิต ต้องมีเอกสาร ใบมรณะบัตร ,ใบแต่งตั้งผู้จัดการมรดก

 ในการทำเรื่องของรหัสจากทางโรงงาน ควรต้องมีสิ่งที่แจ้งมาข้างต้นนี้ แต่ถ้ามีปัญหาในการทำเรื่องผ่าน บริษัทร้านค้าเราซื้อมา เรายินดีให้คำปรึกษา และให้บริการทำเรื่องกับทางคลีนิคตู้เซฟ และเรายังมีบริการ เปิดตู้เซฟด่วน สามารถสอนเปิดทางline ในกรณีที่ลูกค้าอยู่ ต่างจังหวัด และไม่สามารถหาช่างเข้าทำการเปิดตู้เซฟ ได้ ทางเรายินดีให้บริการ

 บริการสอนเปิดทาง line ลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด ไม่สามารถหาช่างเปิดได้

ลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจเรา

บริการเปิดตู้เซฟ ถึงจะอยู่ ตจว. ก็สอนเปิดได้ครับ

เมื่อพูดถึงการปกป้องทรัพย์สินที่มีค่า ทุกคนจะนึกถึง ตู้เซฟ หรือ ตู้นิรภัย เป็นอันดับต้นๆ แต่คนสูงให้มักคิดว่าตู้เซฟมีราคาแพง คิดว่าไม่มีเหตุจำเป็นต้องใช้ แต่แท้จริงแล้ว ตู้เซฟเป็นไอเทมที่ควรมีติดบ้านไว เพราะมันมีประโยชน์ในการปกป้องทรัพย์สินที่มีค่า ปัจจุบัน ตู้เซฟ หรือ ตู้นิรภัย มีขนาดเล็ก เพื่อให้ความสะดวกในการใช้งาน และราคาไม่แพง

แต่ด้วยความเป็นตู้เซฟขนาดเล็ก หลายคนจะมีความกังวลว่า ด้วยขนาดที่เล็ก และราคาไม่แพง ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย ดูไม่มีประสิทธิภาพในการปกป้องสินทรัพย์ ขโมยคงจะยกกันไปได้แบบง่ายๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณสมบัติเฉพาะของ ตู้เซฟ หรือ ตู้นิรภัย ขนาดเล็ก กลับแฝงด้วยประโยชน์ในหลายแง่มุม ที่ผู้คนยังไม่เข้าใจ

ประโยชน์เฉพาะตัวของ ตู้เซฟขนาดเล็ก ดังนี้

  1. ตู้เซฟขนาดเล็ก สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย ทำให้เราสามารถย้ายจุด เพื่อซ่อนอำพรางตู้เซฟให้อยู่ในที่ปลอดภัย และสะดวกง่ายกว่าตู้เซฟขนาดใหญ่

  2. ตู้เซฟใบเล็กที่คนร้ายยกไปได้ง่าย ๆ ย่อมสร้างความชะล่าใจให้คนร้ายยกไปเปิดที่อื่น ซื่งหากเราทำการตั้งตั้งเครื่อง GPS กับตู้เซฟ ย่อมเป็นกับดักสำหรับคนร้าย และนำมาซึ่งการจับคนร้าย

  3. ตู้เซฟขนาดเล็กบางรุ่น จะมีระบบน๊อดยึดกับพื้นหรือผนัง กรณีนี้จะทำให้ยกไปนั้นยากขึ้น ทำให้คนร้ายมีความยุ่งยากและช่วยถ่วงเวลาได้

  4. ตู้เซฟขนาดเล็ก จะช่วยป้องกันหรือบรรเทาความเสียหายจากอัคคีภัย หรือช่วยถ่วงเวลาการถูกเผาไหม้จากอัคคีภัย ซึ่งมีบางรุ่นที่มีคุณสมบัติสามารถทนต่ออัคคีภัยได้ ในระยะเวลาและอุณภูมิแตกต่างกันไป ตามคุณภาพของแต่ละรุ่น

  5. ถ้าคุณมีของมีค่าเพิ่มขึ้น คุณอาจจะไม่จำเป็นต้องซื้อตู้เซฟขนาดใหญ่ๆ อาจจะซื้อตู้เซฟขนาดเล็กเพิ่มขึ้นสักใบ เพื่อสามารถกระจายการเก็บของมีค่าได้หลายจุด กระจายความเสี่ยง แยกกันเก็บไว้หลายจุด ยึ่งมีตู้เซฟมากกว่า 2 ตู้ จะยิ่งสร้างความลำบากให้กับการค้นหา การคาดเดา และการลักขโมย ให้กับคนร้ายมากขึ้น อีกทั้งเรายังสามารถจัดเรียงความสำคัญของแต่ละตู้ได้อย่างเหมาะสม

แต่ถึงฉะนั้น ระบบป้องกันขโมยทั้งหลาย ล้วนทำหน้าที่ได้เพียงสร้างความยุ่งยากและถ่วงเวลาขโมยไว้เท่านั้น ยากที่จะมีสิ่งใดป้องกันการขโมยหรือโจรกรรมได้อย่างสมบูรณ์เด็ดขาด เราไม่ควรประมาณ รอบคอบ เตรียมพร้อม รู้จักการกระจายความเสี่ยงจะทำให้เราเสียหายน้อยที่สุด

สำหรับคนที่อยากได้เฟอร์นิเจอร์นอกจากตู้เซฟ เช่น ตู้เก็บของชั้นวางของตู้โชว์ โต๊ะ เก้าอี้
สนใจสามาารถติด่อสอบถามได้ที่
☎️ 02-225-5190
📱 088-693-5491
💚 ID Line : @wongsiam

1.ตู้เซฟนิรภัยแบบสแกนนิ้ว
ตู้เซฟนิรภัยแบบสแกนลายนิ้วมือ จะสามารถจดจำลายนิ้วมือได้ถึง 30 ลายนิ้วมือ เหมาะสำหรับคนที่เปิด-ปิด เพื่อหยิบของบ่อย ๆ สะดวกรวดเร็วในการใช้งาน สามารถเก็บของ เช่น เงิน ทอง สร้อย แหวน เพชร ได้อย่างปลอดภัย มีความทันสมัยในการใช้งาน สามารถนำไปติตตั้งที่บ้านได้

2.ตู้เซฟนิรภัยแบบโรงแรม
ตู้เซฟนิรภัยโรงแรม ส่วนมากนิยมไปใช้ในโรงแรม เพื่อเก็บรักษาสิ่งของของลูกค้าที่เข้ามาพักอาศัยภายในโรงแรม สามารถเก็บของ เช่น นาฬิกา สร้อยคอ กุญแจรอ เป็นต้น และไม่ต้องกังวลในเรื่องการลืมรหัสผ่านเพราะว่าตู้เซฟนิรภัยโรงแรมจะมีระบบ master code หรือ C.E.U. เอาไว้เสียบในช่อง USB เอาไว้เชื่อมต่อฉุกเฉิน เพื่อเปิดตู้เซฟ ในกรณีที่ลืมรหัสได้อีกด้วย

3.ตู้เซฟนิรภัยแบบปุ่มกด
ตู้เซฟนิรภัยแบบปุ่มกด ตู้ประเภทนี้จะมีระบบการรักษาความปลอดภัย โดยการกำหนดตัวเลข สามารถที่จะตั้งรหัสผ่านได้ถึง 4-10 หลัก เหมือนกับ pin ของโทรศัพท์ สะดวกมากสำหรับคนที่ไม่ต้องการความยุ่งยาก สามารถเก็บของได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย เป็นระบบที่ได้รับความนิยมว่ามีความปลอดภัยในระดับที่ดีทีเดียว

4.ตู้เซฟนิรภัยแบบ super safe
ตู้เซฟนิรภัยแบบ super safe จะมีน้ำหนักมากกว่าตู้นิรภัยทั่วไปถึง 30-40 เปอร์เซ็น ปลอดภัยจากโจร สามารถทุบทำลายได้ยาก มีน้ำหนักที่หนัก ไม่มีสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย

5.ตู้เซฟนิรภัยแบบกุญแจและรหัสหมุน
ตู้เซฟนิรภัยแบบรหัสหมุน เป็นตู้เซฟที่ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในการทำงาน จะเป็นตู้เซฟที่มีขนาดใหญ่ เหมาะแก่คนที่ต้องการเก็บของจำนวนมาก สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ปี ไม่มีปัญหาแน่นอน

6.ตู้เซฟนิรภัยแบบเก็บปืน
ตู้เซฟนิรภัยแบบเก็บปืน เป็นตู้ที่มีช่องสำหรับเก็บปืนโดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็น ปืนสั้น ปืนยาว สามารถเก็บได้ ปลอดภัยจากมือเด็กแน่นอน และมาพร้อมกับระบบแสนลายนิ้วมือที่สามารถหยิบปืนได้อย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน

7.ตู้เซฟนิรภัยแบบสองบานประตู
เซฟนิรภัยแบบสองบานประตู เหมาะแก่การเก็บของที่มีขนาดใหญ่ เช่น พระ กล้อง โฉนดที่ดิน ก็สามารถเก็บของได้ มียังมีพื้นที่สำหรับเก็บของได้จำนวนมากอีกด้วย

 

8.ตู้เซฟนิรภัยแบบลิ้นชัก
ตู้เซฟนิรภัยแบบลิ้นชัก ส่วนมากจะมีชั้นสำหรับเก็บของได้ 3-4 ชั้น สามารถแบ่งแยกทรัพย์สินได้อย่างอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อบร้อย สามารถเก็บสิ่งของ เช่น เอกสาร โฉนดที่ดิน เงิน ได้อย่างปลอดภัย

9.ตู้เซฟนิรภัยแบบบานประตูเซฟ
ตู้เซฟนิรภัยแบบบานประตูเซฟ ส่วนมากจะที่ถูกใช้ใน ธนาคาร ร้านทองหรือห้องนิรภัย เหมาะสำหรับเก็บสิ่งของได้จำนวนมาก ไม่รกเกะกะ

สำหรับคนที่ยากได้เฟอร์นิเจอร์นอกจากตู้เซฟ เช่น ตู้เก็บของ ชั้นวางของ ตู้โชว์ โต๊ะ เก้าอี้
สนใจสามาารถติด่อสอบถามได้ที่
☎️ 02-225-5190
📱 088-693-5491
💚 ID Line : https://lin.ee/UoGxKpn

ตู้เซฟมีระบบการล็อกอยู่ 2 แบบ คือ ระบบล็อกกุญแจ และระบบล็อกดิจิตอล 

  • ระบบล็อกด้วยกุญแจ เป็นวิธีเริ่มแรกที่เรียบง่าย ราคาถูก ไม่ต้องมีการจดจำรหัส ไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ ขอเค่มีกุญแจก็สามารถเปิดตู้เซฟได้ทันที และยังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เพราะนอกจากความคลาสสิคแล้ว ยังมีอัตราความล้มเหลวต่ำมาก สามารถรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินได้เป็นอย่างดี
  • ระบบล็อกดิจิตอล จะใช้แบตเตอรี่ในการให้พลังงานตู้เซฟในการล็อกและปลดล็อก การปลดล็อกนั้นจะต้องใส่รหัสตัวเลขที่ตั้งไว้ลงไป โดยสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะการใช้งานที่ง่าย เปิด-ปิดตู้ได้รวดเร็วทันใจ

ระบบล็อกแบบกุญแจ

ข้อดี
– ไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ เนื่องด้วยการออกแบบ
  ทางกลไก ทำให้ตู้เซฟประเภทนี้ค่อนข้างทนทาน

– ไม่ค่อยเสียหายเมื่อเกิดกระแสไฟฟ้าขัดข้องหรือมี
  อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชำรุด อีกทั้งตัวลูกบิดรหัสก็
  มีโอกาสเสียหรือรวนน้อยมาก

ระบบล็อกแบบดิจิตอล

ข้อดี
 ผู้ใช้สามารถรีเซ็ตระบบด้วยตนเองได้ตลอดเวลา
  รองรับรหัสได้หลายชุด ส่วนใหญ่จะมีฟังก์ชั่น
  ป้องกันการเดาสุ่มรหัส 
(หากมีการใส่รหัสผิดเกิน 3
  ครั้ง ตู้เซฟจะส่งสัญญาณเตือนหรือตัดการทำงาน
  ของตัวเอง) เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักธุรกิจ
  และผู้ให้บริการต่างๆ

ข้อเสีย

– ใช้เวลานานในการเปิดตู้เซฟ และต้องอาศัยการ
  ฝึกฝนในการใช้ลูกบิด
– ไม่เหมาะกับการเก็บของที่ต้องมีการหยิบเข้า –
  ออกบ่อยๆ 
– เจ้าของตู้เซฟยังไม่สามารถเปลี่ยนรหัสได้ด้วยตัว
  เองต้องใช้ช่างเทคนิคเฉพาะทางหรือช่างกุญแจ
  เท่านั้น

ข้อเสีย

– ระบบดิจิตอลมีอัตราความล้มเหลวอยู่ที่ 3% 
– มีราคาที่แพงกว่าตู้เซฟแบบหมุนรหัส
– ต้องเตรียมแบตเตอรี่สำรองให้พร้อมอยู่เสมอ

  • ตู้เซฟช่วยปกป้องของมีค่าของเรา 
    ถ้าเรามีของมีค่า และเอกสารสำคัญต่างๆ เช่น เงินสด, ทองคำ, โฉนดที่ดิน และพระเครื่อง ฯลฯ โดยปกติตู้เซฟที่ดีควรจะมีน้ำหนักมากเพื่อป้องกันการถูกหิ้วตู้เซฟ ปัจจุบันนี้ตู้เซฟมีการพัฒนาในเรื่องของความปลอดภัยมากขึ้น โดยมีการเพิ่มฟังก์ชันเสริมอย่าง GPS – Tracker เวลาตู้เซฟถูกขโมยไปสามารถติดตามได้ผ่านสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ที่ให้กับตู้เซฟ แม้ตู้เซฟจะโดนลากไปหลายร้อยกิโล ก็สามารถติดตามได้
  • ตู้เซฟช่วยป้องกันอันตรายจากอัคคีภัย 
    เหตุอัคคีภัยที่จะมาเมื่อไรเราไม่มีทางรู้ได้ เพลิงไหม้สามารถย่อยสลายทรัพย์สินของเราได้ในพริบตา ถือได้ว่าเป็นภัยร้ายรูปแบบนึง ตู้เซฟส่วนใหญ่จึงประกอบไปด้วยวัสดุพิเศษเป็นฉนวนกันไฟได้ ตู้เซฟจะทนไฟไหม้ได้นานหลายชั่วโมง ป้องกันระเบิด ป้องกันไฟฟ้า เวลาเกิดเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งเพียงพอต่อการจะระงับเหตุหรือโทรเรียกพนักงานดับเพลิงมาช่วยได้ทัน 
  • ตู้เซฟช่วยเพิ่มสภาพคล่องสำรองเงินสด 
    ในเวลาฉุกเฉินที่คุณต้องการใช้เงินสด สามารถเก็บเงินสดไว้ในตู้เซฟเพื่อความคล่องตัว นำไปใช้จ่ายเมื่อไหร่ก็ได้ เผื่อที่บ้านมีคนที่บ้านป่วย หรือเป็นอะไรที่ต้องใช้เงินจำนวนหนึ่งแบบฉุกเฉิน การสำรองเงินสดไว้ในตู้เซฟก็เป็นทางเลือกที่ดี 
  • ตู้เซฟของเราจะช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการเช่าตู้เซฟ 
    ลองคิดคำนวณดูก่อนว่าในทุกๆ ปี เราเสียค่าเช่าตู้นิรภัยของธนาคารเป็นจำนวนเท่าไหร่ แล้วถ้าเกิดเราเอาเงินที่จะเช่ามาลงทุนซื้อตู้นิรภัยของเราเองละมันจะดีกว่าหรือเปล่า เพราะเวลาเราจะไปเบิกของที่ธนาคารแต่ละทีก็ต้องระวังตัวเป็นพิเศษ และอย่าลืมว่าช่วงวันหยุดของธนาคารที่เราไม่สามารถเข้าไปใช้งานตู้นิรภัยได้ 
  • ตู้เซฟจะช่วยให้เราสบายใจ
    ไม่ต้องมาคอยกังวล ว่าทรัพย์สินที่มีค่าของเราจะปลอดภัยดีหรือไม่ จะมีใครมาขโมยไปหรือเปล่า หากเก็บใส่ตู้เซฟไว้เราก็จะมีความสบายใจตอนออกมาจากบ้าน และมั่นใจว่าสิ่งมีค่าจะถูกเก็บไว้อย่างดีในตู้เซฟ ทำให้เราหมดความกังวล